15.3.54

การขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป

 การขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป

หลักเกณฑ์ กำหนดดังนี้


1. การนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปจากประเทศสมาชิกอาเซียนจะให้นำเข้าตามพิกัดอัตรา ศุลกากรขาเข้าประเภทย่อยที่กำหนดได้แก่ พิกัด 2101.11.10, 2101.10.90 และ 2101.12.00
2. ปริมาณการนำเข้าจะพิจารณาให้นำเข้าตามปริมาณที่ยื่นขอ (License on Demand) แต่ทั้งนี้ปริมาณที่ยื่นขอจะต้องไม่ส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ทำให้ไม่สามารถขายผลผลิตได้หรือขายได้ในราคาต่ำ เกิดปัญหาความเดือดร้อน
 
ขั้นตอนการดำเนินการ


    คณะกรรมการพืชสวนจะประชุมพิจารณาการขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปตามความตกลง AFTA โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
1. ผู้ขอนำเข้าทำหนังสือแจ้งปริมาณการขอนำเข้าต่ออธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพืชสวน
2. คณะทำงานพืชกาแฟจะประชุมพิจารณาการขอนำเข้าตามที่มีผู้ยื่นขอนำเข้า และนำเสนอคณะอนุกรรมการพืชสวน เพื่อพิจารณาต่อไป
3. คณะอนุกรรมการพืชสวนจะประชุมเพื่อพิจารณาการขอนำเข้าตามที่คณะทำงานพืชกาแฟ เสนอแล้ว แจ้งกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
4. กรมการค้าต่างประเทศจะให้ผู้มีสิทธิขอหนังสือรับรองการนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป ตามความตกลง AFTA เพื่อแสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดจากกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประกอบการใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร

8.3.54

การขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป

การขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป

หลักเกณฑ์ กำหนดดังนี้

1. การนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปจากประเทศสมาชิกอาเซียนจะให้นำเข้าตามพิกัดอัตราศุลกากรขาเข้าประเภทย่อยที่กำหนดได้แก่ พิกัด 2101.11.10, 2101.11.90 และ 2101.12.00
2. ปริมาณการนำเข้าจะพิจารณาให้นำเข้าตามปริมาณที่ยื่นขอ (License on Demand) แต่ทั้งนี้ปริมาณที่ยื่นขอจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ทำให้ไม่สามารถขายผลผลิตได้หรือขายได้ในราคาต่ำ เกิดปัญหาความเดือดร้อน

ข้ันตอนการดำเนินการ

    คณะอนุกรรมการพืชสวนจะพิจารณาการขอนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปตามความตกลง AFTA โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
1. ผู้ขอนำเข้าทำหนังสือแจ้งปริมาณการขอนำเข้าต่ออธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะเลขานุการ คณะอนุกรรมการพืชสวน
2. คณะทำงานพืชกาแฟจะประชุมพิจารณาการขอนำเข้าตามที่มีผู้มายื่นขอการนำเข้า และนำเสนอคณะอนุกรรมการพืชสวน เพื่อพิจารณาต่อไป
3. คณะอนุกรรมการพืชสวนจะประชุมพิจารณาการขอนำเข้าตามที่คณะทำงานพืชกาแฟเสนอแล้ว แจ้งกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป
4. กรมการค้าต่างประเทศจะให้ผู้มีสิทธิขอหนังสือรับรองการนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปตามความตกลง AFTA เพื่อแสดงการได้รับสิทธิยกเว้นภาษีทั้งหมดจากกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประกอบการใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร

11.2.54

การขอนำเข้าเมล็ดกาแฟ


การขอนำเข้าเมล็ดกาแฟ
             
1.    ให้ อคส. หรือผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลและจดทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศนำเข้าภายใต้การกำกับดูแลของคณะอนุกรรมการพืชสวน กำหนดดังนี้
a.    ให้นำเข้าเมล็ดกาแฟเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบแปรรูปเท่านั้น ห้ามจำหน่ายหรือแจกจ่ายเป็นวัตถุดิบในประเทศ
b.       ให้นำเข้าในช่วงเวลานำเข้า พ.ค.-ส.ค. ทุกปี
c.       กำหนดให้ผู้มีสิทธิ์นำเข้าเมล็ดกาแฟ รับซื้อผลผลิตกาแฟในประเทศ ในฤดูถัดไปตามปริมาณที่นำเข้าด้วย โดยจะต้องรับซื้อตามราคาตลาดโลก หรือหากราคาตลาดโลกตกต่ำให้รับซื้อในราคาต้นทุน การผลิตบวก 20% หรืออย่างน้อย 55 บาทต่อกิโลกรัม
2.       ต้องรายงานการนำเข้า การใช้ การจำหน่าย และสต๊อกคงเหลือภายใน 1 เดือน/และมีบทลงโทษหากไม่ดำเนินการ
3.       ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (อย.)
4.       ใบรับรองสุขอนามัยพืช (กรมวิชาการเกษตร)
5.       ใบรับรองปลอด GMOs (กรมวิชาการเกษตร)
6.       สำเนาหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าฟอร์มดี (From D)
7.       ใบกำกับสินค้า (Invoice)
8.        กำหนดด่านนำเข้า ให้ผู้นำเข้าเฉพาะด่านที่มีเจ้าหน้าที่ตรวจพืชประจำอยู่
9.       กำหนดช่วงเวลาการนำเข้า (พ.ค.-ส.ค.)

6.1.54

สมาชิกสมาคมกาแฟไทย

คำชี้แจงรายละเอียด การเป็นสมาชิกสมาคมกาแฟไทย

เอกสารประกอบการยื่นใบสมัคร
1.       ใบสมัครสมาชิกสมาคม
2.       สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีนิติบุคคลใช้สำเนาของกรรมการที่มีอำนาจและตัวแทนที่มีอำนาจ)
3.       สำเนาหนังสือรับรองทะเบียนนิติบุคคล จากกระทรวงพาณิชย์ไม่เกิน 1 เดือน
4.       สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
5.       สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(ภพ.20) กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
หมายเหตุ : สำเนาหลักฐานอย่างละ 1 ฉบับ พร้อมทั้งลงรายมือชื่อรับรองสำเนาและประทับตรานิติบุคคล

สมาชิกของสมาคมมี 3 ประเภทคือ
1.       สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคล ที่ประกอบการกาแฟและได้เปิดดำเนินการมาไม่น้อยกว่า ๑ ปี ซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
2.       สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม การเกษตรกรรม ผู้ประกอบการร้านค้า สหกรณ์ หรือการเงินอันเกี่ยวเนื่องกับการค้ากาแฟ หรือการส่งออกและนำเข้ากาแฟ
3.       สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่ทรงคุณวุฒิ หรือบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการของสมาคมให้เข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์และบุคคลนั้นตอบรับ
หมายเหตุ : สมาชิกภาพของสมาชิกจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระเงินค่าจดทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คุณลักษณะของผู้ที่เป็นสมาชิก ดังต่อไปนี้
1.        เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
2.        ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือบุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
3. ไม่เคยเป็นบุคคลที่เคยต้องโทษจำคุกพิพากษาถึงที่สุดของศาลมาก่อน เว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่มี กำหนดขั้นลหุโทษ หรือความผิดซึ่งกระทำโดยประมาท
4.        ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจของสังคม
5.        เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควร
6.        เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
7.        คณะกรรมการสมาคม เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในการรับผู้สมัครนั้นเข้าเป็นสมาชิก

การชำระค่าจดทะเบียน
         ชำระโดย
    1.  เงินสด 
   2. โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารนครหลวงไทยจำกัด (มหาชน) สำนักสวนมะลิ ชื่อบัญชี สมาคมกาแฟไทย เลขที่บัญชี 101-2-28453-2 (ส่งหลักฐานการโอนเงินทางไปรษณีย์หรือแฟกซ์มายังที่อยู่ข้างต้นหรือทางอีเมล์ thaiexim.coffee@gmail.com)
    3. เช็คสั่งจ่าย “สมาคมกาแฟไทย”          
สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก (Membership Privileges)
1.       ประกาศ กฎระเบียบ ข้อบังคับ ใหม่ของสมาคม (ทาง E-mail)
2.       สิทธิในการเข้าฝึกอบรมสัมมนาของสมาคม
3.       รับข่าวสารเกี่ยวกับวงการกาแฟและอื่นๆจากหน่วยงานรัฐบาล (ทาง E-mail)
4.       รับสติ๊กเกอร์โลโก้ของสมาคม ซึ่งสามารถนำไปใช้หน่วยงาน/หน้าร้านได้
5.       สมาชิกสามัญมีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือได้รับเลือกเป็นกรรมการสมาคม
สิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์
1.       กิจกรรมเยี่ยมชมโรงงาน ที่ทันสมัยและประสบความสำเร็จ ในอัตราพิเศษ
2.       สิทธิเข้าร่วมการจัดแสดงสินค้า เผยแพร่กาแฟไทยในงานแสดงสินค้าต่างๆ
3.       ส่วนลดพิเศษสำหรับการฝึกอบรมและสัมมนาของสมาคม
4.       ส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
5.       สิทธิในการเข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ประจำปี
สิทธิในบริการอื่นๆ ของสมาคม
1.       ส่วนลด 10-15 % เมื่อซื้อหนังสือจากสมาคม
2.       ส่วนลด 10-20 % เมื่อใช้บริการลงโฆษณาในหนังสือหรือเว็บไซด์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สมาคมกาแฟไทย เลขที่ 1300 ถนนทรงวาด แขวง/เขตสัมพันธวงศ์ กทม. 10100
โทร. 02 221 1264, 083 038 4011 แฟกซ์. 02 225 1962
E-Mail : thaiexim.coffee@gmail.com, info@thaicoffeeasso.org

บทบาทของสมาคมกาแฟไทย


บทบาทของสมาคมกาแฟไทย
                บทบาทของสมาคมฯ เป็นเสมือนพี่เลี้ยงกาแฟไทย สมาคมฯทำหน้าที่ดูแลส่งเสริม และพัฒนาเมล็ดกาแฟตั้งแต่ต้น คือตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีก่อน เมื่อประเทศเริ่มมีการเพาะปลูก และมีเมล็ดกาแฟพอสำหรับการส่งออก ผู้ประกอบการในไทย ได้รวมตัวกันจัดตั้งสมาคมฯ ซึ่งตอนนั้นชื่อว่าสมาคมผู้ส่งออกกาแฟ สมาคมฯ ได้ดำเนินการหลักๆ 3 เรื่อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทย
                เรื่องแรก ทำหน้าที่บุกเบิก แนะนำเมล็ดกาแฟไทยเข้าสู่ตลาดโลก และร่วมกับผู้นำเกษตรกรชาวสวนกาแฟ ผลักดันให้กระทรวงพาณิชย์ ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การกาแฟระหว่างประเทศ ทำให้เมล็ดกาแฟไทยมีสิทธิขายในตลาดสมาชิกองค์การกาแฟฯ ซึ่งได้ราคาที่ดีกว่า
                เรื่องที่สอง สมาคมฯได้ตั้งมาตรฐานกาแฟโรบัสต้าไทย โดยจากที่สมาคมฯได้เก็บข้อมูลและเรียนรู้คุณภาพเมล็ดกาแฟที่โรงงานแปรรูปต้องการ และที่สำคัญได้ประสานกับชาวสวนกาแฟไทย ศึกษาสิ่งที่ชาวสวนไทยจะปฏิบัติได้ แล้วจึงตั้งมาตรฐานเมล็ดกาแฟโรบัสต้าไทยที่คุณภาพโรงงานยอมรับ และชาวสวนไทยก็ทำได้
                เรื่องที่สาม สมาคมฯได้ผลักดันให้มีการทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายเกษตรกรในฐานะผู้ปลูก ฝ่ายสมาคมฯ ในฐานะผู้ประกอบการส่งออก และฝ่ายรัฐในฐานะผู้กำหนดนโยบาย จะร่วมกันประชุมปรึกษาหารือกัน ทุกปีก่อนผลผลิตกาแฟไทยเข้าสู่ตลาด เพื่อทำความเข้าใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ในฤดูกาลนั้นๆ และสมาคมฯ ก็จะประกันราคาซื้อให้เกษตรกร เพื่อเกษตรกรจะได้มั่นใจว่าจะต้องขายได้ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาประกันของสมาคมฯ พื้นที่ปลูกกาแฟจึงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากปี พ.ศ.2524 ผลผลิตกาแฟมีเพียง 7-8 พันตัน เพิ่มเป็น 3-4 หมื่นตัน ในปี พ.ศ.2531และ 7-8 หมื่นตัน ในปี พ.ศ.2533 มูลค่าการส่งออก 2-3 พันล้านบาท